ภาพยนต์เกาหลี ได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับการสร้างสรรค์ในวงการภาพยนตร์ระดับโลก

ภาพยนต์เกาหลี ผสานความรู้สึกและความหลากหลายของสังคมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว นำเสนอเรื่องราวที่ท้าทาย และสะท้อนความเป็นจริงของวัฒนธรรมอันอุดมสมบูรณ์ ผ่านการถ่ายทอดฉากที่สวยงามและการแสดงที่น่าประทับใจ ทำให้ผู้ชมสัมผัสถึงความหลากหลายของอารมณ์ จากความหวาดกลัวจนถึงความรักและการสูญเสีย สัมผัสความสมจริงในทุกฉากจากการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้ง เหล่านักแสดงแสดงออกถึงแรงบันดาลใจ ผ่านความตื่นเต้น, ความเศร้า, และการได้รับความอบอุ่น

เทคนิคการถ่ายทำภาพยนตร์และการตัดต่อที่ชาญฉลาด เสนอมุมมองที่ใหม่ล่าสุดและท้าทาย ช่วยสร้างความทรงจำที่ยากที่จะลืมให้กับผู้ชม ดนตรีประกอบและการออกแบบเสียงที่ดีเยี่ยม สร้างบรรยากาศที่น่าตื่นเต้นและเข้ากับอารมณ์และช่วงเวลาของเรื่องราวอย่างลงตัว ภาพยนตร์เกาหลีไม่เพียงแต่คว้ารางวัลในวงการ แต่ยังชะลอลงทุกขอบเขตทางวัฒนธรรม ทำให้มีพื้นที่สำหรับการสื่อสารและความเข้าใจทางสังคมในวงกว้าง

ภาพยนต์เกาหลี

ภาพยนต์เกาหลี The Roundup : No Way Out (2023)

ตำรวจร่างยักษ์หมัดหนักกับภารกิจใหม่ ซัดไม่ยั่นอัดไม่ยั้ง ไม่ว่าอาชญากรจะเป็นใครหน้าไหน เมื่อ ‘มาซอกโด’ ตำรวจตัวพ่อขาลุย พร้อมใช้กำปั้นแก้ทุกปัญหาให้จบไวๆ ในหมัดเดียว ตะบันหมัดใส่วายร้ายอั้กๆ อัดมุกฮาร่วนใส่ผู้ชมเอิ๊กอ๊าก สร้างสองชั่วโมงแห่งบันเทิงสุข ยาคลายเครียดขนานนี้ ต้องไม่พลาดเป็นงานภาคที่สามซึ่งแตกหน่อเติบโตมาจาก The Outlaws (2017) เล่าวิถีและภารกิจหน้าที่ของตำรวจตัวพ่อ เอกลักษณ์กล้ามโต เป็นสายบู๊บ้าบิ่นตะบันลูกเดียว นามว่า มาซอกโด (รับบทโดย มาดงซอก)

สำหรับภาคแรก The Outlaws มาซอกโดจัดการกับนักเลงโหดเหี้ยมสัญชาติจีนหลายก๊กหลายแก๊งตีกัน โดยมี ยุนคเยซัง รับบทตัวร้าย ก็จะมาในโทนดิบเถื่อนและดาร์คนัวร์โลว์คีย์หน่อย ต่อมาภาคสองเป็น The Roundup (2022) การล่าวายร้ายข้ามประเทศอาชญากรโรคจิตที่กระหน่ำแทงฆ่าคนอย่างอำมหิต โดยมี ซนซอกกู รับบทตัวร้าย โทนก็จะผสมผสานการต่อสู้ด้วยหมัดและมีดโหดๆ สยองบ้าง แต่ไม่ค่อยอึมครึมโลว์คีย์แล้ว และแซมมุมตลกขำขันเข้าไปมากขึ้น

มาถึงภาคนี้ เราจะได้พบกับความบันเทิงที่ขยับมาเป็นแอ็คชั่นคอมเมดี้แบบเต็มขั้น ทุกฉากบู๊แอ็คชันเน้น Vibe สนุกสนาน ไม่ใช่เหวอะหวะนองเลือดแบบภาคก่อน และที่สำคัญทุกตัวละครพร้อมใจกันแย่งซีนชงมุกฮา สาดกระจายกันตลอดเรื่อง จนชื่อไทยที่ว่า บู๊ระห่ำล่าล้างนรก ทุบนรกแตก นั้น ผู้เขียนอยากเติม ‘ต่อมฮาแตก’ เข้าไปด้วยเลย เรื่องราวเริ่มต้นที่ มาซอกโด (รับบทโดย มาดงซอก) ย้ายมาสังกัดหน่วยสืบสวนกลาง ร่วมทีมกับ ผู้กองจางแทซู (รับบทโดย อีบอมซู) และคู่หูลูกน้อง คิมมินแจ (รับบทโดย คิมมินแจ) ไปทำคดีการเสียชีวิตของหญิงสาวคนหนึ่งที่ตกตึก

สาวไปสาวมาก็เกี่ยวพันกับยาเสพติด ขุดคุ้ยต่อก็เจอแก๊งค้ายาตัวใหม่ที่ชื่อว่า ‘ไฮเปอร์’ มีฤทธิ์รุนแรง กำลังเริ่มแพร่หลายกระจายขายอยู่ตามคลับบาร์ ทำให้มาซอกโดลุยเข้าไปสืบ แม้ว่าจะเป็นพื้นที่สน.อื่น และยังล่วงล้ำเส้นงานของตำรวจหน่วยอาชญากรรมยาเสพติด ซึ่งมี ผู้กองจูซองชอล (รับบทโดย อีจุนฮยอก) ดูแลอยู่ แก๊งค้ายาต้นตอนี้ไม่ธรรมดา เป็นยากูซ่าอยู่ที่ญี่ปุ่น คือ อิชิโสะ (บทรับเชิญโดย จุน คุนิมูระ) มีสมุนมือขวาสายบู๊โหดคือ ริคกี้ (รับบทโดย มูเนทาเกะ อาโอกิ) และมี โทโม

ภาพยนต์เกาหลี

The Devil’s Deal (2023) ดีลคนชั่ว มัวเมาอำนาจและเงินตรา เบื้องหลังมายาเกมการเมือง

เกมห้ำหั่นชิงดำที่ต้องงัดด้านดำมืดในจิตใจมารับ-รุก เพื่อรอด-รุ่งในโลกการเมืองอันโสมม มีเพียงการขายวิญญาณให้ปีศาจเท่านั้น ที่จะสร้างดีล วิน-วิน ร่วมกับอีกปีศาจได้ ดีลนรกคนกินชาติ เป็นผลงานกำกับและเขียนบทโดย ‘ผู้กำกับอีวอนแท‘ เจ้าของผลงานเด่นๆ เช่น The Gangster, the Cop, the Devil (2019), Man of Will (2017) งานนี้เขาชงมาในแนวหนักๆ แน่นๆ ตามถนัดเช่นเคย คือผสมผสานทั้งอาชญากรรม การเมือง ดราม่า นัวร์ระทึก ย้อนยุค และมีความเป็น Picaresque (การผจญภัยของตัวโกงตัวร้ายที่น่าดึงดูดใจประหนึ่งเป็นฮีโร่)

จากชื่อเรื่องก็บอกใบ้มาแล้วหละว่าเราจะได้ชมเรื่องราวการขับเคี่ยวชิงดำอย่างสุดหินสุดโหดโฉดชั่วของผู้ที่หลงมัวเมาในอำนาจ ซึ่งตัวละครที่เหมาะกับการถ่ายทอดเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์ได้ชัดๆ ก็คงหนีไม่พ้นนักการเมือง และแม้หนังจะจั่วไว้ว่าเป็นเรื่องแต่ง แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าสันดานละโมภและกลเกมอันสกปรกนั้นมีเค้าความจริงอยู่ในโลกการเมืองทุกแห่งทุนหน ท้องเรื่องเป็นเมืองปูซานในปี 1992 ซึ่งเป็นปีที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีและการเลือกตั้งทั่วไปพร้อมกันเป็นครั้งแรกหลังได้รัฐธรรมนูญมา

หยิบยืมช่วงจริงของรอยต่อการเมืองจากรัฐบาลทหารหรือทหารนักการเมืองไปสู่รัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชนเกาหลีมาอ้างอิง จึงเป็นปีที่การหาเสียงคึกคักเข้มข้น และการพัฒนาเมืองท่าปูซานก็เป็นหนึ่งในนโยบายหาเสียงของพรรคฝ่ายรัฐบาลในขณะที่นักการเมืองท้องถิ่นจนๆ พกอุดมการณ์จริงใจอย่าง จอนแฮอุง (รับบทโดย โจจินอุง) ที่ไต่เต้าทุ่มเทอยู่ในพื้นที่บ้านเกิดนี้มานาน 20 ปีจนที่เป็นที่รักของมวลชน ก็เห็นโอกาสจะได้สมหวังเป็น สส.สักที แต่ทว่าจู่ๆ เขาก็ถูกพรรคต้นสังกัดเขี่ยชื่อทิ้งกลางอากาศ

ด้วยฝีมือของ ควอนซุนแท (รับบทโดย อีซองมิน) ผู้มีอิทธิพลเบื้องหลังพรรค และเพิ่งได้รับเอกสารลับที่เป็นแผนพัฒนาเมืองปูซาน โครงการยกระดับเป็นเมืองสำคัญแถวหน้า นั่นหมายความว่าหลายพื้นที่จะทวีมูลค่ามหาศาล แต่ถ้าปล่อยให้คนอย่างจอนแฮอุงที่เอาแต่นโยบายปกป้องที่ดินทำกินชาวบ้านมาบริหารปูซาน เขาจะเสียโอกาสการหาประโยชน์เข้ากระเป๋าตนและเข้ากองทุนสินบนส่งส่วยให้ส่วนกลาง จึงต้องมัดมือชกผู้สมัครหน้าเดิม ชงผู้สมัครหน้าใหม่ที่หัวอ่อนควบคุมได้ง่ายลงแทนจอนแฮอุง

Kill Boksoon (2023) |เมื่อกิลบกซุนต้องเลือกว่าจะฆ่าหรือถูกฆ่า เพื่อ ‘ฆ่า’ ชีวิตสองขั้วของตัวเอง

กิลบกซุนนอกบ้าน คือนักฆ่าอาชีพ โหด เท่ ยืนหนึ่งระดับซูเปอร์เอ งานสำเร็จ 100% กิลบกซุนในบ้าน คือแม่ผู้อ่อนโยน แต่ก็ยังสอบไม่ผ่าน ไม่เคยได้ใจลูกสาววัยทีนเลยมาสู่จุดตัดทางแยกชีวิตที่เธอจะต้องเลือกตัดสินใจครั้งสำคัญ จะเป็นกิลบกซุนแบบไหน เป็นภาพยนตร์ออริจินัล ผลงานเขียนบทและกำกับโดย บยอนซองฮยอน เจ้าของผลงานดังเรื่อง Kingmaker (2022), The Merciless (2017), My P.S. Partner (2012) ใครเคยประทับใจกับสไตล์งานของเขา ดูบอล ต้องชมเลย

เรื่องนี้จะมาในแนวผสมผสานทั้งอาชญากรรม แอ็คชัน ทริลเลอร์ แนวรุนแรงเลือดสาด ปนกลิ่นนัวร์หน่อยๆ บนเรื่องราวที่มีปมชวนติดตามทั้งในมุมดรามาและแฝงตลกร้ายนิดๆ ว่าด้วยพล็อตของความสัมพันธ์แม่ลูก ที่ตบมุกตลกร้ายหลักเลยก็คือ แม่ที่พบว่าการฆ่าคนนั้นง่ายกว่าการเลี้ยงลูก ก็เพราะเธอเป็นมือสังหารอาชีพสังกัดบริษัทระดับโลกมานานร่วมยี่สิบปี ชีวิตนอกบ้านและในบ้านของเธอคือบรรยากาศและผลลัพธ์ที่ต่างกันสุดขั้ว ทำให้เธอหนักอกหนักใจ และแล้วในช่วงที่เธอกำลังจะตัดสินใจเลือกต่อสัญญางานกับบริษัทหรือไม่

เหตุการณ์ร้ายแรงในชีวิตทำงานอันคาดไม่ถึงและหลีกเลี่ยงได้ยากก็เกิดขึ้น แต่ก็ช่วยให้การตัดสินใจของเธอง่ายขึ้น กิลบกซุน (รับบทโดย จอนโดยอน) เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว อยู่กับลูกสาว กิลแจยอง (รับบทโดย คิมชีอา) ในบ้านหลังโต เธอไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกนัก แต่ก็ตั้งใจอย่างมากในการเลี้ยงดู ทั้งๆที่เธอเข้าไม่ถึงใจลูกวัยทีนเลยสักนิด ส่วนหนึ่งก็เพราะต่างคนต่างมีความลับต่อกัน เพราะมีชีวิตอีกด้านที่ไม่อยากเปิดเผย เรามาดูเรื่องของแม่ก่อนเพราะน้ำหนักแอร์ไทม์เยอะกว่า ส่วนของลูกสาวทิ้งไว้ให้ไปติดตามกันเอง

กิลบกซุน ทำมาหากินด้วยอาชีพนักฆ่าผู้มีพรสรรค์ด้านจิตแกร่ง ผ่านการฝึกฝนฝีมือโหดเป็นเลิศ ฉลาดสู้แบบมีกลยุทธ รวมถึงประสบการณ์ช่ำชองในงาน เธอจึงขึ้นแท่นเป็นพนักงานเบอร์หนึ่งของบริษัทเอ็มเค เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งเป็นบริษัท ‘รับจ้างฆ่า’ มืออาชีพระดับโลก เจ้าของธุรกิจคือคู่พี่น้อง ชามินกยู (รับบทโดย โซลคยองกู) นักฆ่าในตำนานหน้านิ่ง และ ชามินฮี (รับบทโดย อีซอม) ผู้หญิงที่ไว้ใจในรอยยิ้มไม่ได้ เธอรักและหวงพี่ชายอย่างมาก ดังนั้น ยิ่งพี่ชายเอ็นดูและปกป้องกิลบกซุนมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งขัดใจ สะสมความริษยาเกลียดชังไว้มากเท่านั้น

ภาพยนต์เกาหลี Confession (2022) ฆาตกรรมคำลวง สู่คำสารภาพอำพรางที่ท้าทายสมองผู้ชม

ฆาตกรรมในห้องปิดตายหนึ่งเป็นศพที่ให้ปากคำไม่ได้แล้ว อีกหนึ่งก็บาดเจ็บและตกเป็นผู้ต้องหาโดยที่ยืนยันว่าตนบริสุทธิ์ใครคือคนร้ายตัวจริง?ตามคุณทนายความมือหนึ่งไปสืบสาวหาความจริงในคำสารภาพนั้นConfession เป็นภาพยนตร์แนวปริศนาระทึกขวัญไปกับการสืบสาวหาความจริงของคดีอาชญากรรม รีเมคจากหนังดังเรื่อง The Invisible Guest (2016) ของสเปน

เดิมมีแผนเตรียมฉายตั้งแต่ปลายปี 2020 แต่ต้องเลื่อนเพราะสถานการณ์โควิด-19 ถึงกระนั้นก็ยังให้ผลการตอบรับที่ดีมากๆคือมียอดตั๋วสูงเป็นอันดับ 16 ของปี แม้จะไปไม่ถึงจุดคุ้มทุน แต่หนังก็ได้รับการตอบรับดีในแง่การรับเชิญไปฉายในหลายๆ เทศกาลภาพยนตร์ของต่างประเทศความดีความชอบอันดับแรกต้องขอยกให้กับตัวบทดั้งเดิมซึ่งมีความโดดเด่นและสนุกน่าประทับใจเป็นทุนสำคัญ

พอนำมาปรับใส่กลิ่นอายและรายละเอียดให้เข้ากับความเป็นเกาหลีอย่างเหมาะสม ถ่ายทอดผ่านนักแสดงที่มากฝีมืออย่าง โซจีซอบ และ คิมยุนจิน ก็ทำให้ยังสามารถเสพย์ซ้ำได้อย่างสนุกเพลิดเพลินสำหรับผู้ที่เคยผ่านต้นฉบับมาแล้วและสนุกทึ่งอย่างสดใหม่แน่นอนสำหรับผู้ที่รับชมเป็นครั้งแรกตั้งต้นด้วยการท้าวความถึงคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่ง

ผู้ต้องสงสัยคือ ยูมินโฮ (รับบทโดย โซจีซอบ) ซีอีโอของบริษัทไอที D&T Security ที่กำลังรุ่ง เหยื่อผู้ตายคือ คิมเซฮี (รับบทโดย นานะ) ซึ่งเป็นชู้รักของยูมินโฮ โดยที่มีปมปริศนาหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นห้องที่ปิดตาย ล็อคจากข้างใน มีเพียงสองคนในนั้น ตัวยูมินโฮเองที่ให้การว่าถูกใครสักคนทำร้ายบาดเจ็บจนสลบก่อนที่จะฟื้นขึ้นมาพบศพคิมเซฮีบนพื้นซึ่งเกลื่อนไปด้วยธนบัตรมากมาย ธนบัตรเหล่านั้นคือเงินพันล้านวอนที่ยูมินโฮอ้างว่าถูกผู้โทรมาข่มขู่แฉความลับเรื่องฉาวมีชู้ แนะนำหนังฮีโร่สนุกน่าติดตามที่ต้องดูให้ได้