รีวิว The Little Mermaid หากลืมเรื่องดราม่าตัวละครไม่ตรงคาแร็กเตอร์ในการ์ตูนไปได้ The Little Mermaid ไลฟ์แอ็กชั่นก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด เป็นกระแสฮือฮาตั้งแต่เริ่มมีข่าว เปิดตัวนักแสดง เปิดตัวนักพากย์ และตลอดระยะเวลากว่าจะถึงวันฉาย สำหรับภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่นที่มาจากการ์ตูนสุดอมตะของ Disney อย่าง The Little Mermaid เงือกน้อยผจญภัย 

ที่เมื่อได้ดูเต็มๆ เรื่องแล้ว ก็มีความคิดเห็นหลายอย่างทั้งดีและไม่ดีมาแบ่งปันให้ได้ทราบกัน

หากคุณเป็นแฟนการ์ตูนเรื่องนี้ของ Disney มาแต่ไหนแต่ไร จำหลายๆ คำพูดของตัวละครได้ จำคาแร็กเตอร์ของตัวละครได้เป็นอย่างดี และมีความผูกพันที่พิเศษกับการ์ตูนเรื่องนี้ อาจจะบอกได้เต็มปากเต็มคำว่าเวอร์ชั่นไลฟ์แอ็กชั่นอาจไม่ได้เป็นตัวเลือกที่ดีนักที่จะบอกได้ว่าสามารถถ่ายทอดจากเวอร์ชั่นการ์ตูนออกมาได้ตรงตามที่เวอร์ชั่นต้นฉบับ

หรือถ่ายทอดคาแร็กเตอร์ของตัวละครจากเวอร์ชั่นต้นฉบับออกมาได้ดีมากขนาดนั้น ไม่ว่าจะเป็นคาแร็กเตอร์ตัวเด่นอย่างแอเรียลที่ไม่ได้ผิวขาวตาโดผมแดงตามอย่างในการ์ตูน นกสกิตเติ้ลที่เปลี่ยนสายพันธุ์ หน้าตาของเหล่าสัตว์อย่างเจ้าลูกปลาขี้กลัวฟลาวเดอร์และปูช่างเจรจาเซบาสเตียน ที่รูปลักษณ์ภายนอกแตกต่างจากเวอร์ชั่นการ์ตูนลิบลับ (ต้องแตกต่างอยู่แล้ว)

พูดง่ายๆ ก็คือแค่เห็นภาพก็อาจจะไม่อินเอาได้ง่ายๆ ซึ่งเป็นความท้าทายของหนังไลฟ์แอ็กชั่นที่มาจากการ์ตูนทุกเรื่อง

รีวิว The Little Mermaid

แต่หากเราชมโดยหยุดเปรียบเทียบคาแร็กเตอร์ระหว่างคนแสดงกับการ์ตูนลงไปก่อน แล้วนั่งชมโดยคิดเสียว่าเป็นหนังเรื่องใหม่เอี่ยมเรื่องหนึ่งที่เราไม่เคยดูเวอร์ชั่นใดๆ มาก่อน ก็จะพบว่า The Little Mermaid นี้ก็ดูเพลินดูสนุกดี ไม่ได้แย่จนทนดูไม่ได้จนต้องติเตียนไปเสียทุกจุดแต่อย่างใด

ส่วนตัวผู้เขียนเคยชมเวอร์ชั่นการ์ตูนมาแล้ว แต่นานมากจนไม่ได้จำรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างแม่นยำมากขนาดนั้น แต่จำไฮไลต์ของเรื่อง และเนื้อเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบได้ว่าเกิดอะไรขึ้น พบว่าตัวเองสามารถดูภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างเพลิดเพลินกว่าที่คิด เมื่อวางอคติเรื่องหน้าตาของแอเรียล โดยมองว่าแอเรียล (แสดงโดย ฮัลลี เบลีย์)

เป็นแค่เงือกน้อยธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่สงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับโลกมนุษย์ ตกหลุมรักมนุษย์หนุ่มคนแรกที่เจอ ผู้ซึ่งมีอุดมการณ์คล้ายกันกับเธอ จนยอมสละเสียงของตัวเองเพื่อให้ได้ขาเดินเยี่ยงมนุษย์ แต่ด้วยความไร้เดียงสาและไม่คิดไตร่ตรองให้ถ้วนถี่ดีพอ ทำให้รู้ว่าการสละเสียงเพื่อขาไม่ได้ทำให้เรื่องง่ายอย่างที่ใจเธอคิด ทุกอย่างนี้ในภาพยนตร์ถ่ายทอดออกมาได้เข้าใจง่ายและกระชับฉับไวไม่น่าเบื่อ

แต่สิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเหล่าสารสัตว์ผู้พยายามช่วยให้ภารกิจจุมพิตกับเจ้าชายประสบความสำเร็จ ฉากที่คอยช่วยเหลือทั้งสองคนอยู่เบื้องหลังเป็นหนึ่งในช่วงของภาพยนตร์ที่สนุกที่สุดในความเห็นของผู้เขียน สนุกจนคิดว่าถ้าไม่มีตัวละครเหล่าเพื่อนของแอเรียลเหล่านี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้คงไม่สนุกเท่านี้ (น่าจะตรงกับเวอร์ชั่นการ์ตูนด้วย) รวมไปถึงตัวละครออกโรงใหญ่โตอย่างแม่มดทะเลเออร์ซูลา สูตรสำเร็จตัวร้ายที่เล่นได้น่าหมั่นไส้ดีทีเดียว

ด้านงานภาพก็สวยงามตกแตกถึงขั้นว่าคนที่เรียนหรือทำงานด้านกราฟิกหรือด้านภาพยนตร์คงต้องคาระวะ ภาพใต้น้ำช่วงร้องเพลง “Under the Sea” สีสดสวยงามและเป็นไฮไลต์ของภาพยนตร์เช่นกัน รวมถึงฉากอื่นๆ ที่มีกราฟิกเข้ามาช่วย การเคลื่อนไหวของผมใต้น้ำ ทำได้ดีเป็นธรรมชาติดูแล้วไม่ขัดตา

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกราฟิกที่ผู้เขียนว่าสวย บางคนอาจไม่ชอบกราฟิกลักษณะนี้ ซึ่งอาจเป็นไปได้เช่นกัน มันกึ่งๆ ว่าจะทำให้ดูเรียลเหมือนของจริง หรือจะยังคงเป็นการ์ตูนอยู่ ครึ่งๆ กลางๆ รวมถึงเนื้อเรื่องคำพูดการกระทำของตัวละครที่เมื่อมาดูในยุคนี้ก็อาจจะมองว่าล้าสมัยไปบ้าง ฉากที่ควรซึ้งกลับทำให้ผู้เขียนและผู้ชมบางส่วนในโรงภาพยนตร์รอบสื่อมวลชนขำออกมามากกว่า สิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ไม่ว่าคุณจะเป็นหรือไม่ได้เป็นแฟน Disney

ถึงกระนั้น ยังเห็นสปิริตของนักแสดงที่แสดงได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่อง เสียงร้องเพลงของแอเรียลและตัวละครอื่นๆ ทั้งเจ้าชาย (แสดงโดย โจนาห์ ฮาวเออร์-คิง) ปูเซบาสเตียน นกสกิตเติ้ล แม่มดเออร์ซูลา (แสดงโดย เมลิสซา แม็กคาร์ธี)

ทุกตัวละครร้องเพลงได้ดีมากจนไม่มีที่ติ ถ่ายทอดความฟีลกู้ดของภาพยนตร์ออกมาได้ดี ไม่เศร้าจนร้องไห้เหมือนตอนที่ดูการ์ตูนเงือกน้อยผจณภัยตอนเด็กๆ ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่ไม่เน้นดราม่าดูแล้วอารมณ์ดีเพลิดเพลินกับเสียงร้องเพลงของนักแสดงแต่ละคนได้ดีพอตัว

หากใครอ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้วยังไม่เชื่อว่า The Little Mermaid ไลฟ์แอ็กชั่นจะดีงามตามที่เล่า สามารถพิสูจน์ได้ด้วยตาของคุณเองตั้งแต่ 25 พ.ค. เป็นต้นไปที่โรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

ติดตามภาพยนต์ได้ที่ : ดูหนัง

ติดต่อเรา : @LINE